ท่องเที่ยวและทำงาน

Visa Page

การยื่นขอวีซ่าประเภทธุรกิจและท่องเที่ยว B-1/B-2

การยื่นคำร้องขอวีซ่าประเภทธุรกิจและท่องเที่ยว (B-1/B-2)

หากท่านต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวหรือติดต่อธุรกิจในประเทศสหรัฐอเมริกา ท่านต้องได้รับอนุมัติวีซ่าเข้าเมืองเป็นการชั่วคราวประเภทธุรกิจจากสถาณฑูตเสียก่อน ซึ่งมีรายละเอียดในด้านเอกสารและขั้นตอนการดำเนินการดังต่อไปนี้

*เอกสารประกอบการยื่นคำร้องขอวีซ่า*

• หนังสือเดินทาง : หนังสือเดินทางของนักเรียนควรมีอายุใช้ได้อย่างน้อยหกเดือน หลังจากวันที่ยื่นขอวีซ่า นักเรียนควรนำหนังสือเดินทางทุกเล่มที่มีอยู่ ซึ่งหมดอายุไปแล้ว หรือยังใช้ได้อยู่ (ถึงแม้จะเคยมีวีซ่า เข้าออกสหรัฐฯ หรือไม่ก็ตาม) มายื่นด้วย เพื่อประกอบในการพิจารณาการขอวีซ่าของท่าน

• รูปถ่าย : รูปถ่ายขาว-ดำ หรือ รูปสี โดยมีฉากด้านหลังของรูปถ่ายเป็นสีอ่อนหนึ่งภาพ (ขนาด 1 1/2 นิ้ว x 1 1/2 นิ้ว หรือ 4 ซ.ม. x 4 ซ.ม.) รูปถ่ายไม่ควรมีอายุเกินกว่าหกเดือน •

หลักฐานที่ยืนยันว่าท่านจะไม่เป็นผู้ไปตั้งถิ่นฐานในสหรัฐอเมริกาเป็นการถาวร : ได้แก่หลักฐานความผูกพันทางครอบครัว เศรษฐกิจ และสังคมอื่นๆ ที่มีอยู่ภายนอกประเทศสหรัฐฯ

*ประเภทของหลักฐานที่สามารถนำมาประกอบในการพิจารณา*

เนื่องจากสภาพแวดล้อมทางครอบครัว สังคม และอาชีพของแต่ละบุคคลแตกต่างกันไป ทางสถาฑูตสหรัฐจึงไม่สามารถระบุได้ว่าเอกสารใดที่ท่านยื่นแล้วสามารถรับประกันได้ว่าท่านจะได้รับวีซ่า อย่างไรก็ตามหลักฐานต่อไปนี้ เป็นตัวอย่างที่เจ้าหน้าที่กงสุล จะขอดูอยู่เสมอๆ •

หลักฐานการทำงาน : ผู้ขอวีซ่าอาจยื่นจดหมายจากนายจ้าง ระบุถึง (1) วันที่เริ่มทำงาน (2) เงินเดือน และ/หรือเงินค่าตอบแทน อื่นๆ (3) ตำแหน่งงานชั่วคราวหรือถาวร และ (4) ระยะเวลา ที่ท่านได้รับอนุญาตให้ลางานได้ กรณีข้าราชการ และลูกจ้างของรัฐบาลไทย ควรมีใบอนุมัติการลาหยุดงานมาแสดง ผู้ขอวีซ่าที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว ควรแสดงหลักฐานพิสูจน์ การเป็นเจ้าของกิจการของตน ผู้ที่จะเดินทางไปสหรัฐฯ เพื่อทำธุรกิจ เช่น ฝึกงาน หรือ เข้าร่วมประชุม ควรมีจดหมายจากบริษัทต่างประเทศที่ท่านกำลังจะไปติดต่อมาแสดงด้วย ในรายที่เป็นนักเรียน นักศึกษา ควรแสดงหลักฐานการศึกษาจากสถานศึกษาของท่าน สำหรับผู้เยาว์จะต้องแสดงหลักฐานทาง เศรษฐกิจของบิดา-มารดา •

หลักทรัพย์ : ท่านควรยื่นแสดงเอกสารทางการเงิน เพื่อพิสูจน์ว่าตนมีฐานะทางการเงินเพียงพอที่จะครอบคลุมค่าใช้จ่าย ในการเดินทาง หลักฐานดังกล่าวอาจเป็นสมุดบัญชีเงินจากประจำ บัญชีกระแสรายวัน บัญชีออมทรัพย์และ /หรือ ตั๋วสัญญาใช้เงิน ท่านควรยื่นแสดงเอกสารต้นฉบับเท่านั้น ทางสถานทูตจะไม่เก็บสำเนาเอกสาร

• หลักฐานอื่นๆ : ท่านสามารถใช้ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส ภาพถ่ายพิธีสมรส และสูติบัตร เพื่อยืนยันความผูกพันทางครอบครัว หากท่านมีอาชีพ เป็นนายแพทย์ ทนายความ วิศวกร หรือสมาชิกสมาคมวิชาชีพอื่นใด ท่านควรนำใบอนุญาต การประกอบอาชีพนั้นๆ มาแสดง เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการยื่นคำร้องขอวีซ่า

*ขั้นตอนการยื่นคำร้อง* •

ชำระค่าธรรมเนียมในการดำเนินการ ก่อนอื่นท่านต้องไปจ่ายค่าธรรมเนียมขอวีซ่าจำนวนเงิน 45 เหรียญสหรัฐ (หรือเทียบเท่าค่าเงินบาทไทยปัจจุบัน) ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่งในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล (ยกเว้นไปรษณีย์สาขาย่อย) และเก็บใบเสร็จที่ได้รับจากที่ทำการไปรษณีย์ไว้ •

กรอกใบคำร้องขอวีซ่า (OF-156)

ท่านสามารถขอใบคำร้องขอวีซ่าได้ที่แผนกกงสุล หรือใช้แบบฟอร์ม ซึ่งพิมพ์ออกทางอินเตอร์เนทที่ http://www.usa.or.th/services/visa/visa.htm โดยตอบคำถามทุกข้อให้สมบูรณ์ หากท่านไม่ตอบ คำถามทั้งหมดในคำร้องนี้ทางสถาณฑูตจะไม่รับคำร้องของท่าน นอกจากนี้ควรเขียนชื่อของตนเป็นภาษาไทยในข้อ 3 พร้อมชื่อสกุลก่อนสมรสด้วย •

ใบคำร้องขอวีซ่า (แบบฟอร์ม DS-156 และแบบฟอร์มเพิ่มเติม DS-157 ภาษาไทย)

- แบบฟอร์ม DS-156 และฟอร์ม DS-157 ภาษาไทย ในรูป PDF (ถ้ามีโปรแกรม Acrobat Reader )

- แบบฟอร์ม DS-156 และฟอร์ม DS-157 ภาษาไทย ในรูป Microsoft Word (ถ้ามีโปรแกรม Microsoft Word 97 หรือเวอร์ชั่นสูงกว่า)

•ใบคำร้องขอวีซ่า (แบบฟอร์ม DS-156 และแบบฟอร์มเพิ่มเติม DS-157 ภาษาอังกฤษ)

- แบบฟอร์ม DS-156 และฟอร์ม DS-157 ภาษาอังกฤษ ในรูป PDF (ถ้ามีโปรแกรม Acrobat Reader )

- แบบฟอร์ม DS-156 และฟอร์ม DS-157 ภาษาอังกฤษ ในรูป Microsoft Word (ถ้ามีโปรแกรม Microsoft Word 97 หรือเวอร์ชั่นสูงกว่า)

ที่มา : เวบไซต์สถานฑูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย

• ยื่นเอกสารต่อเจ้าหน้าที่

ให้ท่านยื่นเอกสารต่อเจ้าหน้าที่ที่หน้าต่างตรวจรับเอกสาร หมายเลข 1 หรือ หมายเลข 2

โดยท่านต้องยื่นใบเสร็จที่ได้รับจากที่ทำการไปรษณีย์ ใบคำร้องของวีซ่าที่กรอกเป็นภาษาอังกฤษ หนังสือเดินทาง รูปถ่าย และหลักฐานต่างๆ (ดูข้างบน) หลังจากยื่นใบคำร้องและเอกสารต่างๆ ตามหน้าต่างที่ได้กำหนดไว้แล้ว ท่านจะได้รับบัตรนัดให้กลับมาฟังผลในตอนบ่ายของวันทำการถัดไป และบางทีท่านอาจได้รับวีซ่าโดยไม่มีการสัมภาษณ์ ในกรณีที่มีการนัดสัมภาษณ์ เจ้าหน้าที่จะให้ใบนัด ซึ่งระบุวันและเวลาที่จะต้องเข้ามารับการสัมภาษณ์

*เมื่อต้องถูกสัมภาษณ์*

ในวันสัมภาษณ์ท่านต้องมารับหมายเลขบัตรคิวจากหน้าต่างที่ได้ระบุไว้ในใบนัดและนั่งรอในบริเวณห้องพักจนกว่า หมายเลขของท่านจะปรากฎขึ้นบนจออีเลคทรอนิค หมายเลขบนคือหมายเลขบัตรคิวที่ท่านถืออยู่ หมายเลขล่างคือหมายเลขหน้าต่างที่ท่านจะเข้ารับการสัมภาษณ์

*สถานที่ยื่นคำร้องขอวีซ่า *

แผนกกงสุล สถานทูตสหรัฐอเมริกา

เลขที่ 95 ถนนวิทยุ (ตรงข้ามอาคารสินธร หรือเยื้องกับสถานทูตสหรัฐฯ อาคารใหม่) กรุงเทพฯ

*เวลาที่ทางสถานทูตเปิดรับคำร้อง*

วันจันทร์ ถึง วันศุกร์ ระหว่างเวลา 7.00 น. ถึง 9.00 น.

Note : สถานฑูตสหรัฐอเมริกาจะเปิดรับคำร้องในระบบมาก่อนได้รับบริการก่อน ไม่มีการนัดหมายล่วงหน้าท่านควรเตรียมตัวเพื่อไปยื่นคำร้องแต่เช้า

และในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายนของทุกปี เป็นช่วงเวลาที่มีผู้มาขอวีซ่ามากที่สุด หากท่านต้องสัมภาษณ์ท่านอาจต้องรอในการสัมภาษณ์เป็นเวลาหลายวัน

( Copyright Dec 2003, Personal web Site; khonsoottai )