Credit in USA

Home

ทำไมถึงต้องมีเครดิต

        การมีเครดิตในอเมริกา เป็นสิ่งจำเป็น นอกจาก คุณสามารถซื้อข้าวของด้วยเงินผ่อนแล้ว การมีเครดิตยังช่วยเมื่อคุณต้องการไป สมัครงาน ซื้อบ้าน ทำธุรกิจ หรือเมื่อคุณต้องขอโทรศัพท์ น้ำ ไฟ ในชื่อของตนเอง

การสร้างเครดิต

       ถ้าคุณไม่เคยมีเครดิตมาก่อน คุณควรเริ่มต้นสร้าง ด้วยการเปิดบัญชีธนาคารเช็คกิ้ง หรืองเซฟวิ่งในชื่อของตนเอง หลังจากนั้น จึงขอเครดิตคาร์ดจากร้านค้า เช่น ร้านเสื้อผ้าเล็กๆ หรือ ห้างสรรพสินค้า หรืออาจขอเครดิตคาร์ดจากธนาคารที่คุณมีบัญชีอยู่ เริ่มแรกธนาคารอาจให้วีซ่า หรือมาสเตอร์คาร์ด ในวงเงินต่ำ หรือให้เป็น Secured credit card คือมีเงินฝากค้ำประกัน ถ้าคุณชำระหนี้ตรงเวลา หลังจากนั้น คุณอาจจะไปขอวงเงินเพิ่ม และขอเครดิตคาร์ดเพิ่มจากบริษัทอื่นๆ

ค้ำประกันหรือ โคไซน์

        อีกวิธีหนึ่งที่จะขอเครดิตคาร์ดได้ คือ ให้ผู้มีเครดิตดีโคไซน์ (Cosign) หรือ เซ็นชื่อร่วม วิธีนี้เป็นวิธีที่ผู้เขียนไม่เห็นด้วยนัก เพราะคุณทั้งสองต้องรับผิดชอบหนี้ร่วมกัน (Codebtor) ถ้าคุณชำระหนี้สายเครดิตของคุณ และผู้โคไซน์จะเสียไปด้วย หรือถ้าคุณทำล้มละลาย ผู้ที่ โคไซน์ต้องรับชำระหนี้ต่อไป คำพังเพยไทยที่ว่า "อยากเป็นเศรษฐีให้เป็นนายหน้า อยากเป็นขี้ข้าให้เป็นนายประกัน" ก็คงไม่ผิดนัก

ศูนย์เครดิต

        ศูนย์เครดิต หรือ Credit Bureau เป็น Agency รวบรวมข้อมูล และประวัติของบุคคล และให้ (ขาย) ข้อมูลเหล่านี้ต่อลูกค้า ลูกค้ารายใหญ่ คือ เครดิตเอเจนซี่ท้องถิ่นเล็กๆ นายจ้าง เจ้าของตึก หรือ บ้านเช่า / Landlord และผู้ให้เครดิตต่อคุณ
ปัจจุบันศูนย์เครดิตใหญ่ ๆ มี 3 แห่ง คือ CBI อยู่เมือง Atlanta , TRW อยู่เมือง Cleveland and Trans Union อยู่เมือง Chicago ซึ่งศูนย์เครดิตเหล่านี้มีสาขาตามเมืองใหญ่ ๆ ทั่วไปตามรัฐต่างๆ

ข้อมูลในเครดิตรีพอร์ท (Credit Report)

        ข้อมูลต่างๆ ในเครดิตรีพอร์ทนอกเหนือจากรายงานเครดิต และวิธีการชำระหนี้ของคุณแล้ว ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับ ประวัติของคุณ ผู้เขียนเปรียบเทียบเครดิตรีพอร์ทเช่นเดียวกับ Rap Shect (?) ข้อมูลเหล่านี้ อยู่ในเครดิตรีพอร์ท คือ ชื่อ ที่อยู่ ข้อมูลเกี่ยวกับคู่สมรส เบอร์ Social สถานที่ทำงาน ตำแหน่ง รายได้ ระยะเวลาทำงาน ประวัติเครดิต วิธีการชำระหนี้ รายงานต่าง ๆ ที่เป็นข้อมูลสาธารณะ (Public Record) เช่น การหย่าร้าง ล้มละลาย หนี้ภาษี คำตัดสินคดี (Conviction) คำตัดสินสั่งจ่ายหนี้จากศาล (Judgment) ถ้าคุณเคยถูกไล่ออกจากบ้านเช่า (Eviction) เป็นต้น

ใครดูเครดิตรรีพอร์ทของคุณ

        ทุกครั้งที่คุณขอเครดิตคาร์ด ซื้อรถ ซื้อบ้าน เช่าบ้าน เช่าร้านทำธุรกิจ ขอโทรศัพท์ น้ำ ไฟ สมัครงาน ผู้ที่ให้เครดิตคุณและนายจ้าง จะตรวจสอบเครดิตของคุณไปที่ศูนย์เครดิต ทุกครั้งเครดิตของคุณถูกเช็ค รายชื่อของผู้เช็คเครดิตจะติดอยู่ในเครดิตรีพอร์ทของคุณ เป็นเวลา 6 เดือน หรือ 2 ปี ถ้าเกี่ยวกับการสมัครงาน

ประเด็นตัดสินให้เครดิต

        เมื่อคุณจะขอเครดิต ผู้ให้เครดิตจะดูเครดิตรีพอร์ทของคุณเพื่อตัดสินใจว่าควรจะให้เครดิตคุณหรือไม่ ประเด็นสำคัญที่นำมาตัดสินอนุมัติเครดิตหรือไม่ คือ รายได้ รายจ่าย หนี้สิน อายุ ความมั่นคงของงาน ความรับผิดชอบในการ ชำระหนี้ และอีกประเด็นสำคัญคือ คุณขอเครดิตมากน้อยเท่าไรภายใน 6 เดือน ถ้ารายการชื่อผู้เช็คเครดิตมาก จะทำให้เครดิตรรีพอร์ทของคุณดูไม่ดี

การรักษาเครดิต

        การรักษาเครดิตเป็นสิ่งสำคัญ คุณต้องพยายามผ่อนชำระหนี้ให้ตรงเวลา ถ้าคุณผ่อนหลังกำหนด สถาบันการเงินจะแจ้ง ไปยังศูนย์เครดิต ฉนั้นถ้าเดือนใดคุณไม่สามารถชำระหนี้ได้ทันเวลา ไม่ว่าจะเป็นหนี้เครดิตคาร์ด หรือผ่อนบ้าน คุณควรโทรศัพท์ แจ้ง ไปยังแผนกบริการลูกค้า บอกเขาว่าคุณจะจ่าย Late เดือนนั้น หลายบริษัทจะยอมให้คุณจ่ายช้าได้ และเครดิตคุณจะไม่เสีย และพยายามอย่าขอเครดิต พร้อมกันหลายแห่งในเวลาใกล้ๆ กัน ดังที่กล่าวข้างต้น ทุกครั้งที่คุณขอเครดิต ไม่ว่าคุณจะได้หรือไม่ รายชื่อผู้เช็คเครดิตของคุณ จะโผล่ขึ้นมาในเครดิตรีพอร์ท ตัวอย่าง ถ้าคุณไปช็อปปิ้งซื้อรถ เซลส์แมนจะให้คุณกรอกข้อมูลเครดิตของคุณ ก่อนที่จะเริ่มต่อรองราคา ฉนั้นถ้าคุณไปดูรถ 5 แห่ง หมายความว่า เครดิตของคุณถูกเช็ค 5 ครั้ง

เครดิตเสีย

        ตามกฎหมาย ข้อมูลเสีย (Negative Information) ต่าง ๆ เช่น คำตัดสินคดี คำตัดสินสั่งจ่ายหนี้จากศาล การชำระหนี้ Late สามารถติดอยู่ใน เครดิตรีพอร์ทสูงสุดไม่เกิน 7 ปี ส่วนข้อมูลว่าคุณทำล้มละลาย สามารถติดอยู่ในเครดิตรีพอร์ทสูงสุด ไม่เกิน 10 ปี

( Copyright Dec 2003, Personal web Site; khonsoottai )