นักเรียนต้องรอจนถึง 90 วันหรือน้อยกว่าล่วงหน้าการเดินทางในการยื่นคำร้องขอวีซ่านักเรียน แต่ไม่ควรประมาทขอในเวลาที่ใกล้วันออกเดินทางเกินไป เพราะในกรณีที่นักเรียนต้องใช้เวลาในขั้นตอนการรอการสัมภาษณ์ซึ่งอาจใช้เวลาหลายวันอาจไม่ทัน กำหนดการเดินทางได้
เอกสารประกอบการยื่นคำร้องขอวีซ่า
หนังสือเดินทาง : หนังสือเดินทางของนักเรียนควรมีอายุใช้ได้อย่างน้อยหกเดือน หลังจากวันที่ยื่นขอวีซ่า นักเรียนควรนำหนังสือเดินทางทุกเล่มที่มีอยู่ ซึ่งหมดอายุไปแล้ว หรือยังใช้ได้อยู่ (ถึงแม้จะเคยมีวีซ่า เข้าออกสหรัฐฯ หรือไม่ก็ตาม) มายื่นด้วย เพื่อประกอบในการพิจารณาการขอวีซ่าของท่าน
รูปถ่าย : รูปถ่ายขาว-ดำ หรือ รูปสี โดยมีฉากด้านหลังของรูปถ่ายเป็นสีอ่อนหนึ่งภาพ (ขนาด 1 1/2 นิ้ว x 1 1/2 นิ้ว หรือ 4 ซ.ม. x 4 ซ.ม.) รูปถ่ายไม่ควรมีอายุเกินกว่าหกเดือน
แบบฟอร์ม I-20 : นักเรียนต้องยื่นแบบฟอร์ม I-20 ที่นักเรียนได้รับจากสถาบันการศึกษาที่นักเรียนจะไปศึกษาต่อในสหรัฐอเมริกา พร้อมเซ็นชื่อนักเรียน และวันที่ ซึ่งอยู่ด้านล่างของแบบฟอร์ม I-20
หลักฐานการศึกษา : นักเรียนต้องแสดงผลการเรียนครั้งล่าสุด (Transcript) ฉบับจริง สำหรับนักเรียนที่ขอวีซ่านักเรียนที่ไม่ได้ขอวีซ่าทันทีในปีที่จบการศึกษา ควรยื่นหลักฐานการทำงานประกอบด้วย
หลักทรัพย์ : นักเรียนควรยื่นแสดงเอกสารทางการเงินที่ครบถ้วนสมบูรณ์ เพื่อแสดงว่านักเรียนมีเงินทุนจำนวนเหมาะสมที่จะครอบคลุมถึงค่าธรรมเนียมการศึกษา และค่าครองชีพระหว่างอยู่ในสหรัฐอเมริกา โดยอาจยื่นแสดงบัญชีเงินฝากประจำ บัญชีกระแสรายวัน บัญชีออมทรัพย์ หรือ ตั๋วสัญญาใช้เงินที่เป็นของบุคคลผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย
Note : นักเรียนควรยื่นแสดงเอกสารต้นฉบับเท่านั้นทางสถานทูตจะไม่เก็บเอกสารดังกล่าวไว้
หลักฐานที่พิสูจน์ว่านักเรียนจะไม่ไปตั้งถิ่นที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาเป็นการถาวร : ได้แก่หลักฐานความผูกพันทางครอบครัว เศรษฐกิจ และสังคมอื่นๆ ที่มีอยู่ภายนอกประเทศสหรัฐฯ
*ขั้นตอนการยื่นคำร้อง*
ชำระค่าธรรมเนียมในการดำเนินการ นักเรียนต้องไปจ่ายค่าธรรมเนียมขอวีซ่าจำนวนเงิน 45 เหรียญสหรัฐ (หรือเทียบเท่าค่าเงินบาทไทยปัจจุบัน) ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่งในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล (ยกเว้นไปรษณีย์สาขาย่อย) และเก็บใบเสร็จที่ได้รับจากที่ทำการไปรษณีย์ไว้
กรอกใบคำร้องขอวีซ่า (OF-156)
นักเรียนสามารถขอใบคำร้องขอวีซ่าได้ที่แผนกกงสุล หรือใช้แบบฟอร์ม ซึ่งพิมพ์ออกทางอินเตอร์เนทที่ http://www.usa.or.th/services/visa/visa.htm โดยตอบคำถามทุกข้อให้สมบูรณ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้นไม่ว่าจะเป็นแบบฟอร์มที่เป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ หากนักเรียนไม่ตอบ คำถามทั้งหมดในคำร้องนี้ทางสถาณฑูตจะไม่รับคำร้องของนักเรียน นอกจากนี้นักเรียนควรเขียนชื่อของตนเป็นภาษาไทยในข้อ 3 พร้อมชื่อสกุลก่อนสมรส
ใบคำร้องขอวีซ่า (แบบฟอร์ม DS-156 และแบบฟอร์มเพิ่มเติม DS-157 ภาษาไทย)
- แบบฟอร์ม DS-156 และฟอร์ม DS-157 ภาษาไทย ในรูป PDF (ถ้ามีโปรแกรม Acrobat Reader )
- แบบฟอร์ม DS-156 และฟอร์ม DS-157 ภาษาไทย ในรูป Microsoft Word (ถ้ามีโปรแกรม Microsoft Word 97 หรือเวอร์ชั่นสูงกว่า)
ใบคำร้องขอวีซ่า (แบบฟอร์ม DS-156 และแบบฟอร์มเพิ่มเติม DS-157 ภาษาอังกฤษ)
- แบบฟอร์ม DS-156 และฟอร์ม DS-157 ภาษาอังกฤษ ในรูป PDF (ถ้ามีโปรแกรม Acrobat Reader )
- แบบฟอร์ม DS-156 และฟอร์ม DS-157 ภาษาอังกฤษ ในรูป Microsoft Word (ถ้ามีโปรแกรม Microsoft Word 97 หรือเวอร์ชั่นสูงกว่า)
ที่มา : เวบไซต์สถานฑูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย
* ยื่นเอกสารต่อเจ้าหน้าที่*
ให้นักเรียนยื่นเอกสารต่อเจ้าหน้าที่ที่หน้าต่างตรวจรับเอกสาร หมายเลข 1 หรือ หมายเลข 2
โดยนักเรียนต้องยื่นใบเสร็จที่ได้รับจากที่ทำการไปรษณีย์ ใบคำร้องของวีซ่าที่กรอกเป็นภาษาอังกฤษ หนังสือเดินทาง รูปถ่าย และหลักฐานต่างๆ (ดูข้างบน) หลังจากยื่นใบคำร้องและเอกสารต่างๆ ตามหน้าต่างที่ได้กำหนดไว้แล้ว นักเรียนจะได้รับบัตรนัดให้กลับมาฟังผลในตอนบ่ายของวันทำการถัดไป และบางทีนักเรียนอาจได้รับวีซ่าโดยไม่มีการสัมภาษณ์ ในกรณีที่มีการนัดสัมภาษณ์ เจ้าหน้าที่จะให้ใบนัด ซึ่งระบุวันและเวลาที่จะต้องเข้ามารับการสัมภาษณ์
*เมื่อต้องถูกสัมภาษณ์*
ในวันสัมภาษณ์นักเรียนต้องมารับหมายเลขบัตรคิวจากหน้าต่างที่ได้ระบุไว้ในใบนัดและนั่งรอในบริเวณห้องพักจนกว่า หมายเลขของท่านจะปรากฎขึ้นบนจออีเลคทรอนิค หมายเลขบนคือหมายเลขบัตรคิวที่นักเรียนถืออยู่ หมายเลขล่างคือหมายเลขหน้าต่างที่นักเรียนจะเข้ารับการสัมภาษณ์
*สถานที่ยื่นคำร้องขอวีซ่า*
แผนกกงสุล สถานทูตสหรัฐอเมริกา
เลขที่ 95 ถนนวิทยุ (ตรงข้ามอาคารสินธร หรือเยื้องกับสถานทูตสหรัฐฯ อาคารใหม่) กรุงเทพฯ
*เวลาที่ทางสถานทูตเปิดรับคำร้อง*
วันจันทร์ ถึง วันศุกร์ ระหว่างเวลา 7.00 น. ถึง 9.00 น.
Note : สถานฑูตสหรัฐอเมริกาจะเปิดรับคำร้องในระบบมาก่อนได้รับบริการก่อน ไม่มีการนัดหมายล่วงหน้านักเรียนควรเตรียมตัวเพื่อไปยื่นคำร้องแต่เช้า
และในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายนของทุกปี เป็นช่วงเวลาที่มีผู้มาขอวีซ่ามากที่สุดหากนักเรียนต้องสัมภาษณ์นักเรียนอาจต้องรอในการสัมภาษณ์เป็นเวลาหลายวัน